ในเวลา ๓ นาฬิกา ของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึก และสองวันถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นผู้นำก่อรัฐประหารท่ามกลางสถานการ์อันไม่แน่นอน ซึ่งมีกฎอัยการศึกและรัฐบาลรักษาการแต่ในนาม ในเวลา ๕ นาฬิกา ของวันที่ ๒๒ คณะยึดอำนาจเรียกตัวเองว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ และตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองอันที่จริง ความเข้มงวดเรื่องการห้ามแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางการเมืองมีมาตั้งแต่ใต้กฎอัยการศึกแล้ว กองทัพอ้างอำนาจล้นฟ้าในการจับกุมและคุมขังตามอำเภอใจ ก่อนหน้าการยึดอำนาจนั้น มีความเข้มงวดต่อการแสดงออกทางการเมือง และหลังการยึดอำนาจแล้วคณะยึดอำนาจจึงห้ามการชุมนุมทางการเมืองทั้งหมด การรัฐประหารได้เพิ่มอำนาจให้กับกองทัพ ในช่วงความขัดแย้งทางการเมืองล่าสุดที่ดำเนินมามากกว่า 6 เดือน กองทัพเงียบมาโดยตลอด จนกระทั่งมาทำลายความเงียบด้วยการยึดอำนาจครั้งนี้
หนึ่งวันหลังจากการรัฐประหาร พลเมืองเริ่มการประท้วงต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติ แสดงความไม่เห็นด้วยต่อกฎอัยการศึกและคำสั่งของคณะรัฐประหาร การประท้วงเริ่มมาตั้งแต่ ๑๗ นาฬิกา ของวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยประชาชนมารวมตัวกันต่อต้านอย่างสงบ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริเวณสยามแสควร์ ซึ่งเป็นใจกลางกรุงเทพฯ ประชาชนผู้มาต่อต้านต่างก็จุดเทียนยืนรวมกันเป็นกลุ่ม และชูป้ายวิพาษ์วิจารณ์การยึดอำนาจและการใช้อำนาจของกองทัพ นอกจากนี้ การต่อต้านรัฐประหารยังเกิดขึ้นตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
หลังจากการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเกิดขึ้นบางแห่ง กองทัพก็เริ่มปฏิบัติการจับกุมผู้ที่มาประท้วงและบังคับให้สลายตัว หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไทรายงานว่า เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา มีผู้ที่ถูกจับหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครอย่างน้อยห้าคน เป็นหญิงสองคน เป็นชายสามคน โดยยังไม่ทราบชื่อผู้หญิงสองคนที่ถูกจับ ประชาไทรายงานว่าผู้ชายสามคนที่ถูกจับคือ นายธนาพล อิ๋วสกุล (บรรณาธิการวารสารฟ้าเดียวกัน) นายอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ และนายบุณยรักษ์ วัฒนะรัตน์ (อายุ ๒๐ ปี) ต่อมาเวลาประมาณ ๒๐.๑๐ นาฬิกา ทหารเข้ายึดพื้นที่ได้ และผู้ชุมนุมก็สลายตัวลง ขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสภาพของประชาชนเหล่านั้น และสถานที่ๆพวกเขาถูกจับไปแต่อย่างใด
ตามกฎอัยการศึกที่ประกาศมาตั้งแต่สองวันก่อนยึดอำนาจนั้น ทหารมีอำนาจในการคุมขังและสอบสวนใครก็ได้เป็นเวลาเจ็ดวันโดยไม่ต้องมีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา ประชาชนอาจถูกคุมขังในสถานที่ไม่เหมาะสมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฐานทัพชั่วคราว หรือสถานที่อื่นๆที่มีไว้สำหรับการกักตัว การคุมขังในสถานที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ อาจทำให้การละเมิดสิทธิเพิ่มขึ้น เช่น การทรมาน การบังคับให้สูญหาย และทำให้เกิดการวิสามัญฆาตกรรม ตัวอย่างกรณีเช่นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีการประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๔๗ และกฎอัยการศึกนี้เองเป็นเครื่องมือในการจับกุมคุมขังนักกิจกรรมทางการเมืองและพลเมืองทั่วไปตามอำเภอใจ
ในช่วงเวลาแห่งความสับสนอลหม่านทางการเมืองที่เกิดมาตั้งแต่การปฏิวัติครั้งก่อน ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ นั้น วัฒนธรรมการปกป้องคุมครองสิทธิมนุษยชน และการวิพากษ์วิจารณ์ความอยุติธรรม ก็เติบโตแข็งแรงขึ้นในสังคมไทย นักวิชาการ ปัญญาชน นักเขียนที่ไม่ได้สังกัดมหาวิทยาลัยใดๆ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นักเคลื่อนไหว ผู้ทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน นักเรียน นักศึกษา และคนอีกจำนวนมาก ได้เขียน พูด และแสดงความเห็น ต่อต้านการใช้ความรุนแรง ต่อต้านความไม่โปร่งใสของการใช้อำนาจรัฐ การบังคับใช้กฏหมายอย่างไม่เท่าเทียม และการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ความตื่นตัวและการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารครั้งล่าสุด ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ และการประท้วงเหล่านี้คงจะมีต่อไปเรื่อยๆ ทางคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียจึงมีความเป็นห่วงว่า ผู้ที่เคลื่อนไหวปกป้องสิทธิมนุษยชน และผู้ที่แสดงการวิพากษ์วิจารณ์ ในช่วงระยะแปดปีที่ผ่านมา จะตกเป็นเป้าในการจับกุมของคณะยึดอำนาจ คณะกรรมาธิการฯ ยังเป็นห่วงอีกด้วยว่า การมีอำนาจล้นฟ้าของทหารภายใต้กฎอัยการศึกที่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไป ทำให้คณะรัฐประหารไม่ต้องถูกตรวจสอบ และไม่มีความโปร่งใส และจะยิ่งสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวที่ทำลายหลักสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียขอประณามการยึดอำนาจ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของคนไทยครั้งนี้อย่างถึงที่สุด เรามีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งถึงความปลอดภัยของ นายธนาพล อิ๋วสกุล นายอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ นายบุณยรักษ์ วัฒนะรัตน์ และคนอื่นๆที่ถูกจับตัวไปโดยทหาร จากการที่พวกเขาออกไปต่อต้านการยึดอำนาจอย่างสันติ ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ทั้งนี้ เพราะพวกเขาเป็นประชาชนคนธรรมดาที่แสดงความคิดเห็นอย่างสงบ และไม่ได้เป็นอันตรายต่อใคร คณะกรรมาธิการฯ ขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติปล่อยตัวคนเหล่านี้ และคนอื่นๆที่ถูกคุมขังตามอำเภอใจโดยทันที